- ใช้ไฟให้เหมาะสม
ปกติแล้วตำแหน่งของห้องครัวมักมีการถ่ายเทของอากาศได้ดี มีแสงธรรมชาติเข้าถึง แต่เมื่ออยู่ในอาคารก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีการเพิ่มแสงสว่างให้เพียงพอต่อการใช้งาน การเลือกใช้หลอดไฟที่มีคุณภาพ และแสงที่เลือกใช้ควรเป็นหลอดไปที่ให้แสงธรรมชาติ
- มีอุปกรณ์ตรวจจับแก๊สรั่ว
แม้ว่าโดยปกติแล้วการปิดแก๊สให้สนิทจะเป็นการช่วยป้องกันปัญหาแก๊สรั่วจนอาจนำไปสู่อุบัติเหตุไฟไหม้บ้านได้ แต่บางครั้งก็เกิดการลืมโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือข้อต่อส่วนต่างๆ ของเตาแก๊สกับถังแก๊สรั่วโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือบางทีการไม่ได้อยู่บ้านหลายวันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่
อุปกรณ์ตรวจจับแก๊สรั่ว สามารถช่วยได้ ทุกวันนี้มีรุ่นที่สามารถแจ้งเตือนและตัดแก๊สให้ได้ด้วยเมื่อเกิดแก๊สรั่ว
- มีจุดป้องกันลื่น
แม้ว่าทุกวันนี้ห้องครัวจะอยู่ในบ้านเป็นครัว indoor ที่พื้นไม่ได้เปียกน้ำเหมือนครัวนอกบ้าน แต่โอกาสที่จะเกิดการลื่นหกล้มเพราะมีน้ำหกลงพื้นขณะทำอาหารนั้นย่อมเกิดขึ้นได้ และบางบ้านเลือกใช้กระเบื้องพื้นมันทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะลื่นล้มขณะถือหม้อร้อนๆ หรือของมีคมได้ นับเป็นเรื่องที่อันตรายมาก การนำวัสดุป้องกันการลื่น เช่น แผ่นกันลื่น มาใช้ในจุดที่มีโอกาสเสี่ยงจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับครอบครัว
- ติดตั้งปลั๊กไฟในตำแหน่งที่เหมาะสม
แม้ว่าในครัวจำเป็นจะต้องมีปลั๊กไฟ เพราะเครื่องครัวหลายๆ อย่างต้องใช้ไฟฟ้า แต่อย่าติดตั้งปลั๊กไฟในตำแหน่งที่น้ำหรือน้ำมันจะกระเด็นไปโดนได้ เสี่ยงเกิดอันตรายได้
- บริหารการใช้พื้นที่ให้ปลอดภัย
ไม่ว่าห้องครัวของคุณจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็ตาม แต่การจัดวางองค์ประกอบ บริหารพื้นที่ให้ดี จะทำให้เวลาทำครัวแต่ละครั้งไม่ต้องเดินวนให้งง หยิบของยาก จนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้